ซิลิโคน มีกี่ประเภท แต่ละประเภทใช้งานอย่างไร?

0

ซิลิโคน ถือว่าเป็นกาวที่ใช้ในการปิดช่องว่างหรือพวกรอยต่อ รอยร้าว รั่ว ซึมทั่วไปภายในบ้านหรือภายนอก ถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับงานเหล่านี้เลยก็ว่าได้ ซิลิโคน มีหลายประเภท และการใช้งานที่แตกต่างกันไป ควรเลือก ซิลิโคน ตามความเหมาะสมของการใช้งาน ในบทความนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับประเภท และการใช้งาน ซิลิโคน เพื่อให้คุณเลือกใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวลหากพร้อมแล้วไปอ่านบทความนี้กันได้เลย

ซิลิโคน คืออะไร?

ซิลิโคน เป็นกาวชนิดหนึ่ง มักใช้เพื่ออุดรอยต่อระหว่างสองพื้นผิว คุณอาจเห็น ซิลิโคน ที่เรียกว่ายาแนวมันคนละแบบกันนะครับ  เป็นวัสดุที่ทำมาจากสารประกอบประเภท โพลิเมอร์ โดยส่วนประกอบหลักคือ ซิลิคอน คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจน ออกซิเจน และสารเคมีอื่นๆ ที่เป็นสารประกอบประเภทอนินทรีย์นั่นเอง

ซิลิโคน จะมีลักษณะเป็นของเหลวคล้ายเจลเมื่อทาลงครั้งแรก แต่หลังจากนั้นจะรักษาพื้นผิวคล้ายยางให้มีความแข็งแรงมากขึ้น หลังจากปล่อยให้แห้งในความชื้นที่เหมาะสมนั่นเอง  และโดยทั่วไปแล้ว ซิลิโคน จะมาในรูปแบบหลอดบีบ และสามารถสอดเข้าไปในปืนยิง ซิลิโคน ซึ่งมักจะช่วยให้งานเสร็จเรียบร้อยยิ่งขึ้นได้นั่นเอง

ซิลิโคน นิยมใช้ในงานประสานอุดรอยรั่ว รอยต่อต่างๆ ทั้งงานในบ้าน และงานอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น นิยมใช้ ซิลิโคน ปิดช่องว่างในชิ้นงาน ปิดพวกรอยร้าวต่างๆ รวมถึงอุดรอยรั่วไม่ว่าจะเป็น ผนัง หรือหลังคา อะลูมิเนียมกับกระจก และพื้นผิวอื่นๆนั่นเอง

ซิลิโคน

ประเภทของ ซิลิโคน

ซิลิโคนยาแนวมี 2 ประเภท คือ ซิลิโคนชนิดเป็นกลาง (แบบไม่มีกรด) และ ซิลิโคนชนิดมีกรด

ซิลิโคนชนิดเป็นกลาง (แบบไม่มีกรด) 

จะมีลักษณะที่แห้งตัวช้ากว่า มีความแข็งแรงน้อยกว่า แต่มีความยืดหยุ่มสูงกว่า ซิลิโคน ที่เป็นกรดนั่นเอง และที่สำคัญมีกลิ่นเหม็นน้อยกว่า และไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนวัสดุ เหมาะกับพื้นผิวประเภท โลหะ หิน กระจก อลูมิเนียม นั่นเองครับ

  • ข้อดี คือ เหมาะสำหรับใช้กับพื้นผิวพวกที่เป็น หิน หรือ โลหะ เพราะจะไม่กัดพื้นผิว ไม่มีกลิ่นนั่นเอง
  • ข้อเสีย คือ ราคาแพงกว่า และแห้งช้ากว่านั่นเอง

ซิลิโคนชนิดมีกรด 

จะมีลักษณะเฉพาะตัว คือ ในขณะใช้งานจะมีกลิ่นออกเปรี้ยวๆ หากคุณนึกไม่ออกว่าเหมือนอะไร มันจะกลิ่นคล้ายๆกับน้ำส้มสายชูนั่นเอง แต่เมื่อกาวแห้งตัวแล้วกลิ่นก็จะหายไป กาวชนิดนี้แห้งเร็ว และมีความแข็งแรงสูง แต่อาจมีฤทธิ์กัดกร่อนวัสดุที่นำไปติดได้ เนื่องจากกาวมีความเป็นกรด จึงเหมาะกับพื้นผิวรอยต่อประเภทพวก กระจก เซรามิค ไฟเบอร์กลาส ไม้ และอลูมิเนียม แต่ไม่ค่อยเหมาะกับพวกพื้นผิวประเภทโลหะ หรือหิน เนื่องจากกรดจะทำปฎิกิริยากับพื้นผิว และกัดกร่อนพื้นผิว และเกิดสนิมได้นั่นเอง

  • ข้อดี คือ มีความยืดหยุ่นกำลังดี ไม่อ่อน ไม่แข็งจนเกินไป ทนUV แรงยึดเกาะสูง และสามารถใช้ได้ทั้งภายใน และภายนอก แห้งเร็ว ทำให้จบงานได้เร็ว
  • ข้อเสีย คือ ห้ามใช้กับวัสดุที่มีพื้นผิวเป็นเซรามิก โลหะ และหิน ซิลิโคน จะทำปฎิกิริยากับพื้นผิวดังกล่าว

ซิลิโคน

ประเภทอื่นๆ ของ ซิลิโคน

กาวอะคริลิก (Acrylic sealants)

เป็นส่วนผสมสังเคราะห์สูตรน้ำที่ใช้สำหรับการเชื่อม และอุดรอยแตกร้าว อุดรูรั่วในการก่อสร้างบ้าน กาวอะคริลิกมีทนต่อรังสี UV เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานภายนอก ที่ต้องการการเคลื่อนไหวน้อย ใช้บนพื้นผิวต่างๆ เพื่อปกปิดช่องว่าง และมักจะมีความยืดหยุ่นแม้หลังจากทาสีแล้วนั่นเอง

กาวบิวทิล (Butyl Sealants)

มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย สำหรับขอบหน้าต่างกระจก และพวกผนังม่าน ซึ่งจำเป็นต้องยึดเกาะกับวัสดุยาง บิวทิลมีความสามารถในการเคลื่อนที่จำกัด แต่สามารถยึดเกาะได้ดี มีความทนทานต่อการเสียดสีต่ำ และไม่ควรใช้สำหรับงานก่อสร้างที่มีความต้องการสูง

โพลียูรีเทน (Polyurethane)

โพลียูรีเทนเป็นตัวที่สามารถยึดติดกับพื้นผิวได้หลากหลายประเภท และใช้งานง่าย เนื่องจากต้องการการเตรียมพื้นผิวน้อยที่สุด มีความทนทานต่อการขีดข่วนดีเยี่ยม ความสามารถในการเคลื่อนไหวสูง และการยึดเกาะที่แข็งแกร่ง ใช้สำหรับงานอุตสาหกรรม เนื่องจากมีความทนทานต่อรังสี UV สูงและมีคุณลักษณะการยึดเกาะที่แข็งแกร่งอีกด้วย

โพลีซัลไฟด์ (Polysulfide)

โพลีซูไฟด์ ถูกใช้เป็นสารเคลือบหลุมร่องฟันในข้อต่อต่างๆ เช่น กรอบกระจก ข้อต่อเพดาน พื้น หลังคา ผนังภายนอก เป็นต้น มีความยืดหยุ่นที่ดีเยี่ยมแม้ในอุณหภูมิต่ำ มีการหดตัวน้อยที่สุด และสามารถนำไปใช้สำหรับการใช้งานใต้น้ำได้ นอกจากนี้ สารเคลือบหลุมร่องฟันประเภทนี้โดยทั่วไปมีราคาแพงกว่าสารเคลือบหลุมร่องฟันสำหรับบ้านอื่นๆ ที่เทียบเคียงได้ และต้องมีมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อการป้องกัน

FAQs ซิลิโคน

คุณจะจัดเก็บ กาวซิลิโคน หลังการใช้งานได้อย่างไร?

เก็บ ซิลิโคน ในอุณหภูมิห้อง ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป เก็บในที่ร่มไม่โดนแดด ซึ่งจะทำให้อายุการใช้งานลดลง เก็บในที่สะอาดเพื่อป้องกันฝุ่นละออง หรือสิ่งสกปรกมาปนเปื้อนกับตัวแม่พิมพ์ยาง ซิลิโคน ซึ่งอาจจะล้างออกหรือไม่ออกก็ได้ ทำให้ต้องเสียแม่พิมพ์ไปฟรีๆ

สามารถเอา ซิลิโคน เก่าออกได้ไหม?

มีหลายวิธีในการขจัดคราบยาแนว แต่วิธีที่ง่ายที่สุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด และเชื่อถือได้มากที่สุดคือการใช้น้ำยาขจัดคราบกาวสารเคมีโดยเฉพาะ นี่เป็นการประหยัดเวลา และจะทำให้งานเสร็จภายในเวลาไม่นาน เพียงตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้งว่าผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างที่คุณเลือกระบุว่าใช้ได้ผลกับ ซิลิโคน หรือไม่นั่นเอง

ซิลิโคน ใช้เวลาแห้งนานไหม?

ซิลิโคน แต่ละชนิดจะมีเวลาในการแห้ง และการแข็งตัวที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัสดุ และสารประกอบเฉพาะ อุณหภูมิและความชื้นในสถานที่ติดตั้งจะมีปัจจัยสำคัญต่อระยะเวลาในการทำให้แห้ง และการแข็งตัวที่ต้องการ ตามกฎทั่วไป ซิลิโคน ส่วนใหญ่จะสัมผัสให้แห้งภายในเวลาประมาณ 1-3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้คุณรออย่างน้อย 10-12 ชั่วโมง (ถ้าจะให้ดีที่สุดคือ 24 ชั่วโมง) ก่อนที่จะให้ซีลบ่มสัมผัสกับน้ำโดยตรง เมื่อผ่านไปหนึ่งวันเต็ม คุณจะมั่นใจได้ว่ากาวซิลิโคนคุณภาพสูงเกือบทุกชนิดจะแห้งตัวได้อย่างสมบูรณ์ในสภาพแวดล้อมทั่วไปนั่นเองครับ.

About author

Your email address will not be published. Required fields are marked *