อุปกรณ์การวัดแบบเดิมๆ มีข้อจำกัดมาก ดังนั้น เครื่องมือวัดประเภทดิจิติลจึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่มากขึ้นและล้ำสมัยมากขึ้น วันนี้จะมารีวิวเครื่องมือวัดตัวจิ๋วแต่แจ๋วอย่าง เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 500 Professional
แค่ได้ยินชื่อ BOSCH ช่างทั้งหลายก็คงรู้จักและสนใจเจ้าเครื่องตัวนี้กันแล้ว ดังนั้นไม่ลีลา ไปดูกันเลย
สิ่งที่ได้มาภายในกล่อง เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 500
เครื่องวัดระยะเลเซอร์ จาก BOSCH ตัวนี้เราได้มาในราคาหกพันนิดๆ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ก่อนอื่นมาดูกันว่าใน 1 กล่องเขาให้อะไรมาบ้าง
- BOSCH GLM 500 Professional
- สายคล้อง 24.5 เซนติเมตร
- คู่มือแนะนำการใช้งาน 7 ภาษา (ไทย, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน, เกาหลี, เวียดนาม, บาฮาซาอินโดนีเซีย) และมีสติกเกอร์คำเตือนแถมให้ด้วยในเล่ม
- ใบแสดงการทดสอบสารอันตรายของสินค้า (ภาษาจีน)
- ใบรับรองสินค้า (ภาษาอังกฤษ)
- ใบประกันสินค้า (ภาษาไทย)
รายละเอียด เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 500
ขนาด : 2.36 x 5.12 x 6.22 นิ้ว
น้ำหนัก : 3.53 ออนซ์
หมายเลขรุ่น : 0601072HK0
วันที่ตรวจสอบ : 11/2020
ผู้ผลิต : Bosch
ข้อมูลทางเทคนิค เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 500
- เวลาการวัด (คำนวณ) : โดยทั่วไป < 0.5 วินาที
- ขนาดเลเซอร์ไดโอด : 635 นาโนเมตร, < 1 มิลลิวัตต์
- ช่วงการวัด : 0.05 – 50.00 เมตร หรือ 0.16 – 165 ฟุต
- คลาสเลเซอร์ : 2
- หน้าจอแสดงผล : สี
- ความแม่นยำในการวัดระยะ : ± 1.5 มิลลิเมตร หรือ 1/16 นิ้ว (ความคลาดเคลื่อนขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน)
- ช่วงการวัดมุมหรือความเอียง : 0° – 360° (4 x 90°)
- ความแม่นยำในการวัดมุมหรือความเอียง : ± 0.2° (ความคลาดเคลื่อนขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน)
- แหล่งจ่ายไฟ : แบตเตอรี่ LR03 (AAA) 2 ก้อน (1.5 โวลต์)
- ปิดใช้งานอัตโนมัติ : 5 นาที
- น้ำหนักโดยประมาณ : 0.1 กก
- หน่วยวัด : ม./ซม. และ ฟุต/นิ้ว
- ความจุหน่วยความจำ : 20 ค่า (ย้อนจากค่าที่วัดปัจจุบันไปได้ 20 ครั้ง)
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ : ใช้วัดได้ประมาณ 10,000 ครั้ง หรือประมาณ 2.5 ชั่วโมง
- ความแข็งแรงทนทาน : ป้องกันฝุ่นและละอองน้ำด้วยเทคโนโลยี IP 54
- ขนาดสกรูขาตั้งกล้อง : 1/4″
- สีเลเซอร์ : สีแดง
ส่วนประกอบของ เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 500
- หน้าจอแสดงผลแบบสี คมชัด ดูง่าย
- ปุ่มเปิด-ปิด การทำงาน ต้องกดค้างไว้เล็กน้อยตอนปิดเครื่อง
- ปุ่มตกลง (ลูกสรชี้ขึ้น) มีสีแดงเป็นกรอบไว้ ใช้ตกลงหรือกดให้เริ่มวัด
- ปุ่ม +/- หรือซ้ายขวา ใช้เลือกและเพิ่มลดค่าต่างๆ
- ปุ่มบันทึกค่าที่วัดได้ เป็นรูปแผ่นดิสก์
- ปุ่มเลือกโหมดการใช้งาน (Function) อยู่ตรงกลางสุด เมื่อกดแล้วฟังก์ชันทั้งหมดจะขึ้นมาให้เลือก จากนั้นกดลูกสรซ้ายขวาเพื่อเลือก แล้วกดปุ่มสีแดง (ลูกสรชี้ขึ้น) เพื่อตกลง
- ปุ่มเลือกระนาบอ้างอิงทางด้านล่างขวา สำหรับเลือกว่าจะให้จุดกึ่งกลางในการวัดอยู่หัว ท้าย หรือกึ่งกลางของเครื่อง
- ช่องใส่ถ่านด้านหลัง
- รูสกรูสำหรับต่อกับขาตั้งขนาด 1/4 นิ้ว อยู่เหนือช่องใส่ถ่านทางด้านซ้าย ใช้กับขาตั้งกล้องทั่วไปได้
- เลนส์รับแสงและช่องยิงแสงเลเซอร์ อยู่ด้านบนของเครื่อง
ประโยชน์ของ เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 500
ใช้วัดระยะทาง ความยาว ความสูง ช่องว่าง ความลาดชัด และคำนวณพื้นที่กับปริมาตร
การใช้งาน เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 500 ในโหมดต่างๆ
- โหมดวัดความยาว (สัญลักษณ์เหมือนเตียง) เพียงแค่ยิงเลเซอร์ไปยังจุดที่ต้องการก็จะได้ค่าที่ต้องการ เป็นการวัดความยาวที่ต้องการได้ง่าย และไกลถึง 50 เมตร
- โหมดวัดต่อเนื่อง (สัญลักษณ์ลูกสรชี้ไปทางด้านขวา) การใช้งานเหมือนกล้องพาโนรามา แค่กดปุ่มตกลงค้างไว้ เลื่อนหรือหมุนเครื่องมือไปตามระยะที่ต้องการ แล้วกดปุ่มตกลงอีกครั้งก็จะได้ค่าที่ต้องการ
- โหมดวัดพื้นที่ (สัญลักษณ์รูปสี่เหลี่ยม) ให้ความความกว้างและความยาว ค่าที่วัดได้ทั้งสองจะแสดงด้านบน ส่วนพื้รนที่ที่คำนวณได้จะแสดงที่ด้านล่างของจอ ระหว่างวัดรูปสี่เหลี่ยมจะกะพริบด้านที่ต้องวัด เพื่อบอกว่าวัดยังไม่เสร็จ ต้องกดปุ่มตกลงเพื่อให้เครื่องทำการวัดเช่นกัน
- โหมดวัดปริมาตร (สัญลักษณ์รูปกล่องสี่เหลี่ยม) คล้ายกับโหมดก่อนหน้า แต่ต้องวัดความสูงเพิ่มอีกอย่าง ค่าทั้งสามด้านจะปรากฏ แล้วจึงจะคำนวณปริมาตรให้
- โหมดวัดระยะทางอ้อม (สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยม) สำหรับการวัดที่มีสิ่งขวางหรือพื้นผิวที่ต้องยิงเลเซอร์ไม่สะท้องแสง ทำให้เครื่องไม่สามารถวัดได้ และยังเกิดความคลาดเคลื่อนง่าย ใช้คู่กับขาตั้งจะดีกว่า วิธีใช้คือยิงเลเซอร์ไปยังจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดที่ต้องการวัด เครื่องจะคำนวณให้โดยใช้มุมช่วย ดังนั้น ที่หน้าจอจึงจะบอกค่ามุมที่เกิดขึ้นด้วย
- โหมดวัดความลาดชัน หรือก็คือระดับน้ำดิจิตัล (สัญลักษณ์รูป Vial หรือระดับน้ำ) มีลูกกลมๆ สีเหลืองแทนฟองอากาศเคลื่อนที่อยู่ภายในวงกลม 3 เส้นซ้อนกัน 1 วง = 1° เมื่อลูกกลมๆ สีเหลืองอยู่ตรงกลางวงกลมที่เล็กสี่สุดเครื่องจะดัง บ่งบอกว่าอยู่ในความชัน 0° จากนั้นก็สามารถกดปุ่มตกลงเพื่อล็อกค่าที่วัดได้ ลูกกลมๆ สีเหลืองก็จะไม่เคลื่อนไปทางไหนอีก
เคล็ดลับการใช้งาน เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 500
– การวัดความชันให้ใช้ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นระนาบอ้างอิง จะได้แนววัดที่ตรงและคลาดเคลื่อนน้อย
– จุดที่มีการสะท้อนแสงน้อย เช่น ผนังสีเข้ม ให้ใช้ระนาบอ้างอิงจากส่วนท้ายของเครื่อง และคิดค่าเบี่ยงเบนเพิ่มเข้าไปกับผลที่ได้ เพื่อให้เกิดความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด ตรงกันข้าม หากพื้นที่ใช้งานมีการสะท้อนแสงเยอะก็ให้ใช้ส่วนหัวของเครื่องเป็นระนาบอ้างอิงแทน
– อุณหภูมิในที่ใช้งานควรอยู่ที่ประมาณ 25-40 องศาเซลเซียส เครื่องจะได้ไม่เป็นอันตรายหรือเสียหาย และให้ค่าผิด
– เปลี่ยนหน่วยวัดด้วยการกดปุ่ม Func ค้างไว้ แล้วเลือกหน่วยที่ต้องการได้เลย นอกจากนี้ยังตั้งค่าเสียงจากตรงนี้ได้ด้วย
ข้อควรระวังในการใช้งาน เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 500
- อย่ามองไปที่ลำแสงตรงๆ ถ้าแสงเข้าตา ต้องปิดตาและหันหน้าหนีทันที
- อย่าเล็งลำแสงไปที่คนหรือสัตว์
- อย่าปรับแก้หรือซ่อมเครื่องเอง โดยเฉพาะส่วนของเลเซอร์ เพราะแสงเลเซอร์มีความอันตรายสูง ไม่ควรมองหรือสัมผัสโดยตรง
- อย่าใช้เครื่องในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการระเบิด เช่น มีสารหรือรังสีอันตราย มีความร้อนสูง
- เก็บให้พ้นมือเด็กที่อาจเอาไปเล่น จะทำให้เด็กและคนรอบข้างมีอันตรายได้ ไม่มากก็น้อย
- อย่าวางเครื่องมือทิ้งไว้โดยไม่ปิดเครื่อง
ข้อดีข้อเสียของ เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 500
ข้อดีของ เครื่องวัดระยะเลเซอร์
- กะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาง่าย
- วัดได้หลายโหมด ทั้งความยาว ความกว้าง ความลาดชัน พื้นที่ และปริมาตร
- วัสดุแข็งแรงทนทาน กันน้ำกันฝุ่นประมาณหนึ่ง
- ให้ระยะที่ไกลกว่าตลับเมตรมาก
- เติมพลังงานง่ายแค่เปลี่ยนถ่าน
ข้อเสียของ เครื่องวัดระยะเลเซอร์
- เหมาะสำหรับใช้ในอาคารมากกว่า ถ้ากลางแจ้งเครื่องจะใช้งานได้ไม่ดี
- พื้นผิวที่ยิงไปต้องสะท้อนแสงได้ เครื่องจึงจะทำการวัดได้
- ต้องใช้กับขาตั้ง หรือวางเครื่องให้นิ่งก่อนจึงจะวัดได้แม่นยำ โดยเฉพาะถ้าจะวัดระยะไกลๆ
การดูแลรักษา เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 500
- ทำให้เครื่องสะอาดอยู่เสมอ เพราะฝุ่นอาจบังแสงเลเซอร์และให้ผลที่ผิดพลาดได้
- ไม่จุ่มเครื่องลงในน้ำหรือของเหลว แต่ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำเปล่าหมาดๆ เพื่อทำความสะอาดได้
- ดูแลเลนส์รับแสงให้ดีเหมือนกับเลนส์กล้องหรือเลนส์แว่นตา เพราะเป็นส่วนที่สำคัญและอ่อนไหวของเครื่อง มีผลต่อการทำงานโดยรวม
- ไม่ให้เครื่องได้รับความชื้นหรือโดนแสงแดดส่องโดยตรง
- ไม่เก็บในที่อุณหภูมิสูง เช่น ในรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ตากแดด เพราะส่งผลต่อความแม่นยำที่วัดได้
- ไม่ปล่อยให้ถูกกระแทก หล่น หรือขว้างปา แม้ว่าเครื่องจะค่อนข้างแข็งแรง