รอก เป็นอุปกรณ์ยกเหนือศีรษะที่ใช้ เชือก ลวด หรือโซ่ เพื่อยกของหรือเคลื่อนย้าย รอกทำงานโดยการถ่ายโอนน้ำหนักจากตะขอไปยังคานเคลื่อนที่ของเครน ช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมากไปรอบๆ พื้นที่ทำงานได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม มีตัวเลือกและการกำหนดค่าที่แตกต่างกันมากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการงานยกเฉพาะของคุณสำหรับสถานที่ก่อสร้าง คลังสินค้า หรือโรงงานผลิต

ประวัติความเป็นมาของ รอก 

มีประวัติยาวนานนับพันปี ตั้งแต่ชาวอียิปต์โบราณไปจนถึงชาวโรมันโบราณ มนุษย์ได้พัฒนาเทคโนโลยีอันชาญฉลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยในการยกของหนัก แต่อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งช่วงกลางทศวรรษที่ 1800 โลกได้เห็นการปฏิวัติอุปกรณ์การยกเนื่องจากการประดิษฐ์ไฟฟ้าและระบบไฮดรอลิกได้เกิดขึ้น 

เส้นเวลาของประวัติศาสตร์ รอก 

• 4,000 ปีก่อนคริสตกาล – ชาวอียิปต์โบราณใช้เทคโนโลยี รอก แบบดั้งเดิมเพื่อยก และลดสะพานชักที่ป้อมปราการแห่ง Quban
• 235 ปีก่อนคริสตกาล – อาร์คิมีดีส และชาวโรมันโบราณสร้างลิฟต์ตัวแรก
• ค.ศ. 500 – ลิฟต์แบบตะกร้าขนาดเล็กมักใช้เพื่อยกคน และอาหารข้ามกำแพงสูง ในยุคกลาง
• ค.ศ. 1000 – มีการใช้เทคโนโลยีการยก เพื่อยกเครื่องแกะขนาดใหญ่ที่พังป้อมปราการในสเปน
• ค.ศ 1739 – Ivan Kulibin นักประดิษฐ์ชาวรัสเซีย ได้สร้างลิฟต์ขับเคลื่อนแบบสกรูตัวแรก ซึ่งเป็นต้นแบบของลิฟต์สมัยใหม่
• ค.ศ. 1823 – สถาปนิกชาวลอนดอน Hormer และ Burton ได้สร้างสิ่งที่เรียกว่า “ห้องจากน้อยไปมาก” โดยพวกเขายกลิฟต์ขนาดห้องพร้อมทิวทัศน์อันงดงามของลอนดอน
• ค.ศ. 1846 – วิศวกรชาวอังกฤษ เซอร์ วิลเลียม อาร์มสตรอง ประดิษฐ์เครนไฮดรอลิกเพื่อขนถ่ายสินค้าลงเรือ
• ค.ศ. 1852 – เอลีชา โอทิส นักอุตสาหกรรมชาวนิวยอร์กได้คิดค้นลิฟต์นิรภัย และก่อตั้งบริษัทโอทิส เอลิเวเตอร์
• ค.ศ. 1870 – Equitable Life ในนิวยอร์กได้ติดตั้งลิฟต์สำหรับขนส่งผู้โดยสารระหว่างชั้น ทำให้เป็นอาคารแห่งแรกที่ทำได้ในยุคสมัยใหม่
• ค.ศ. 1880 – เวอร์เนอร์ ฟอน ซีเมนส์ นักประดิษฐ์ชาวเยอรมัน ได้สร้างลิฟต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นลิฟต์ตัวแรกของโลกและนำไปสู่เทคโนโลยีสมัยใหม่ในปัจจุบัน
• ค.ศ. 1902 – บริษัทลิฟต์ของ Otis ได้สร้างลิฟต์ลากไฟฟ้าแบบไม่มีเกียร์ ซึ่งใช้ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานหลักของลิฟต์สมัยใหม่
• ค.ศ. 1921 – รอกไฟฟ้าเครื่องแรกถูกคิดค้นโดย Alfred E. Box Crane & Hoist Company ที่เรียกว่า The Load Lifter
• ค.ศ. 1935 – บริษัท Shaw-Box Crane & Hoist เปิดตัวรอกไฟฟ้า Budgit ซึ่งเป็นรอกไฟฟ้าแบบพกพาเครื่องแรกในประวัติศาสตร์โลก

รอก คืออะไร? และใช้ทำอะไร?

รอก เป็นอุปกรณ์ยกเหนือศีรษะ ที่ใช้สลิงไหรือโซ่ในการเคลื่อนย้ายวัตถุ มักใช้ในสถานที่ก่อสร้าง และในโรงงานผลิต เนื่องจากสามารถยกของหนักได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้แรงมาก รอก จะกระจายน้ำหนักโดยการแปลงแรงจำนวนเล็กน้อยในระยะทางไกลให้เป็นแรงที่มากขึ้นในช่วงที่สั้นกว่า รอกมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น การควบคุมความเร็ว ความเร็วในการยกหลายระดับ และกลไกด้านความปลอดภัย เช่น ลิมิตสวิตช์ หรือเบรกโหลด

การใช้งานทั่วไปของ รอก  เมื่อพูดถึงโครงการก่อสร้างอาคาร รอก มักจะมีบทบาทสำคัญใน ช่วยขนถ่ายของหนักจากระดับพื้นดินขึ้นไปเข้าที่โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักในนามของคนงาน หากคุณมีคลังสินค้าต้องใช้การยก และเคลื่อนย้ายวัสดุจำนวนมาก ดังนั้น โดยปกติแล้ว รอก จะถูกใช้ค่อนข้างบ่อยในสถานการณ์เหล่านี้

ในสายการผลิต กลไกการยกจะขนส่งวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์ระหว่างขั้นตอนต่างๆ ตลอดกระบวนการประกอบ กระบวนการเหล่านี้ต้องการการเคลื่อนไหวที่แม่นยำในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม ซึ่งหมายความว่าจะต้องดำเนินการโดยคนงานที่มีทักษะซึ่งสามารถจัดการงานที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ โดยรวมแล้ว มีรอกหลายประเภทสำหรับการใช้งานทุกประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง ดังนั้นการวิจัยของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ประเภทของ รอก 

เรามาเริ่มกันที่ระบบ รอก ที่ใช้มากที่สุดสี่ระบบสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม และการผลิต

รอกมือโยก

ตามชื่อที่บอกไว้ รอก ประเภทนี้ใช้งานด้วยมือโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า หรือนิวแมติก ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานเบาโดยไม่ต้องใช้แหล่งจ่ายไฟ หรือแหล่งอากาศในบริเวณใกล้เคียง

รอกสลิงไฟฟ้า

รอก เหล่านี้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการยก/ลดน้ำหนัก โดยใช้ตัวกลางของลวดสลิง แม้จะต้องใช้แหล่งจ่ายไฟ แต่ก็เป็น รอก ที่ใช้กันทั่วไปมากที่สุดในปัจจุบัน รอกสลิงไฟฟ้าส่วนใหญ่มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น กลไกด้านความปลอดภัย และการตั้งค่าความเร็วหลายระดับ เพื่อให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น

รอกโซ่ไฟฟ้า

เช่นเดียวกับลวดสลิงไฟฟ้ารุ่นด้านบน รอก เหล่านี้ใช้โซ่แทนเชือกลวดเพื่อยกของที่หนักกว่าได้มากถึง 5 ตัน ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับความต้องการในการผลิตหรือการยกทางอุตสาหกรรม

คุณสมบัติของ รอก

ไม่ว่าคุณจะเลือก รอก ประเภทwไหนก็ตาม มีคุณสมบัติบางอย่างที่เหมือนกันในทุกรุ่น ซึ่งรวมถึง

• ความสามารถในการยก : นี่คือน้ำหนักสูงสุดที่ รอก สามารถยกได้โดยไม่แตกหัก สิ่งสำคัญคือ ต้องเลือกรอกที่มีความสามารถในการยกเพียงพอ สำหรับสิ่งที่คุณต้องการให้ทำ
• ความเร็วในการยก : นี่คือความเร็วที่ รอก สามารถเพิ่ม หรือลดภาระได้ รอก ประเภทต่างๆ จะมีความเร็วที่แตกต่างกัน ดังนั้น โปรดแน่ใจว่าคุณทราบความต้องการของคุณก่อนที่จะซื้อ รอก ที่ไม่เหมาะกับการใช้งานของคุณ
• ความสูงของการยก : ความสูงของการยกคือ ความสูงของ รอก ที่สามารถยกน้ำหนักได้ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามผู้ผลิต ดังนั้นโปรดแน่ใจว่าคุณทราบความต้องการของคุณก่อนที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับการใช้งานของคุณ
• วัสดุที่ยก : นี่คือสิ่งที่ รอก จะยกได้ ซึ่งอาจเป็นวัสดุแข็ง เช่น เหล็ก คอนกรีต หรืออาจเป็นของเหลวก็ได้
• แหล่งพลังงาน : นี่คือสิ่งที่ขับเคลื่อน รอก ส่วนใหญ่เป็นแบบไฟฟ้า หรือแบบนิวแมติก แต่ก็มีรุ่นแบบแมนนวลให้เลือกใช้งาน
• ประเภทระบบกันสะเทือน : นี่คือสิ่งที่ รอก จะถูกระงับ รอก ส่วนใหญ่จะติดตั้งแบบตะขอ ติดตั้งบนรถเข็น หรือติดตั้งแบบดึง แต่มีตัวเลือกอื่นๆ ให้เลือกด้วยเช่นกัน
• ช่องว่างด้านบน : นี่คือจำนวนพื้นที่เหนือ รอก ที่จำเป็นในการใช้งาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีพื้นที่ว่างเพียงพอ ก่อนที่จะซื้อ รอก ที่ไม่เหมาะกับพื้นที่ทำงานของคุณ

สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก รอก มาใช้งาน

เนื่องจากมี รอก หลายประเภทให้เลือก การเลือกแบบที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุดจึงเป็นเรื่องสำคัญ ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกสิ่งที่ถูกต้องมาใช้งานเพื่อความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ 

• ความสามารถในการยก : นี่คือน้ำหนักที่ รอก สามารถยกได้โดยไม่เสียหาย รอกประเภทต่างๆ จะมีกำลังการผลิตที่แตกต่างกัน ดังนั้นโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณทราบความต้องการของคุณก่อนที่จะซื้อรอกที่ไม่เหมาะกับการใช้งานของคุณ
• ระยะทางในการใช้ : นี่คือระยะทางที่ รอก ต้องเดินทาง เพื่อที่จะสามารถทำงานได้ หากระยะทางไกลเกินไปก็อาจไม่สามารถยกน้ำหนักที่คุณต้องการได้
• ใช้งานง่าย : รอก ที่ใช้งานง่ายจะทำให้จัดการสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่คุ้นเคยกับการใช้งานเป็นประจำ อาจคุ้มค่าที่จะลงทุน ฝึกอบรมเพิ่มเติมหรืออ่านว่าอุปกรณ์ประเภทไหนที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด ก่อนตัดสินใจซื้อ
• คุณลักษณะด้านความปลอดภัย : ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารอกมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัย และได้รับการดูแลอย่างดี เพื่อไม่ให้พังขณะอยู่ที่ไซต์งาน พิจารณามีรายการตรวจสอบความปลอดภัยของเครนติดตัวไว้เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ารอกมีมาตรฐาน
• เวลาใช้งานและการใช้งาน : รอก จะใช้บ่อยแค่ไหน? แต่ละครั้งจะต้องวิ่งนานแค่ไหน? สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อตัดสินใจซื้อ เนื่องจาก รอก บางตัวต้องการการบำรุงรักษาบ่อยกว่าตัวอื่นๆ
• รอกใหม่เทียบกับรอกเก่า : หากคุณกำลังมองหารอกทดแทน สิ่งสำคัญคือต้องรู้ความแตกต่างระหว่างรุ่นเก่า และรุ่นใหม่ โดยทั่วไป รอก ในสมัยใหม่จะมีคุณสมบัติมากกว่า และใช้งานง่ายกว่า ในขณะที่ รอก รุ่นเก่าอาจมีราคาถูกกว่าแต่ต้องมีการบำรุงรักษามากกว่านั่นเอง