กล้องวัดระดับ เป็นเครื่องมือที่มักใช้ในการสำรวจ ใช้เพื่อตรวจสอบ หรือกำหนดจุดที่อยู่บนระนาบเดียวกัน เครื่องมือนี้มักเป็นที่ต้องการของวิศวะกร ผู้เชี่ยวชาญด้านการสำรวจ และผู้รับเหมา เนื่องจากใช้งานง่าย และสามารถตั้งค่าได้อย่างรวดเร็ว ระดับการมองเห็นมีหลากหลายรูปแบบ แล้วทำไมคุณถึงต้องใช้กล้องวัดระดับ ก็เพราะว่ากล้องวัดระดับมีความแม่นยำมาก กว่าการใช้สายวัดหรือเลเซอร์ในการถ่ายระดับในงานก่อสร้าง ส่วนการหาระยะทาง การใช้กล้องระดับนั้นจะมีความแม่นยำในการเปิดมุมฉาก ทำให้เห็นแนวเส้นตรงระหว่างจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง มากกว่าการดึงเทป หรือตลับเมตรจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งมากกว่านั่นเอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานอีกที โดยส่วนมากงานภายนอกอาคาร หรือสเกลงานที่ใหญ่ๆ มักจะเน้นใช้กล้องวัดระดับกัน ส่วนงานเล็กๆหรือมีพื้นที่การทำงานที่จำกัด ควรจะใช้เครื่องมือที่เหมาะสมไปตามสถานการณ์นั้นๆ โดยในปัจจุบันนี้ถือว่าเครื่องมือนี้มีให้เลือกหลายแบบและมีคุณสมบัติที่ต่างกัน เราเลยจะมาพูดถึงปัจจัยในการเลือก และข้อแนะนำที่ทำให้คุณสามารถพิจารณาเลือกซื้อ สิ่งที่จะต้องคำนึกถึงมากที่สุดก็คือวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เพราะสินค้าแต่ละอย่างนั้นต่างก็ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานนั้นเอง
ความแม่นยำของ กล้องวัดระดับ
โดยปกติความแม่นยำของระดับแสงส่วนใหญ่จะสูงมากเกินไป และอาจสูงกว่าที่ต้องการ กล้องแต่นะรุ่นนั้น จะมีระดับความแม่นยำต่างกันไม่มากนักโดยจะขึ้นอยู่กับประเภท และไซต์กล้องที่เราต้องการ แม้ต่างกันไม่มากนักแต่เราก็ควรเปรียบเทียบ การจัดระดับความแม่นยำของระดับแสงระหว่างรุ่น ในกรณีที่คุณต้องการเครื่องมือที่มีระดับความแม่นยำสูงสุดนั้นเอง
ความชัดเจนของ กล้องวัดระดับ
ความชัดเจนของเลนส์กล้อง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา เมื่อมองผ่านเลนส์จะให้ภาพที่คมชัดเสมอ แต่ถ้าเป็นเครื่องมือคุณภาพต่ำจะมีความขุ่นเล็กน้อย ข้อนี้อาจจะมาจากการที่ฝุ่นเข้าไปในเลนส์ระหว่างทำงานก็ได้ และก็จะส่งผลกี่ยวกับการอ่านค่าด้วยเช่นกัน
การขยายเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาขณะเลือก ระดับการมองเห็นเกือบทั้งหมดมาพร้อมกับกำลังขยาย 20X, 24X, 26X, 28X, 32X และอื่นๆ กำลังขยายที่สูงขึ้นไม่ได้หมายความว่าระดับแสงจะดีกว่า โดยการขยายที่เพิ่มขึ้นนั้น จะทำให้มุมมองที่มองผ่านเครื่องมือจะแคบลง ด้วยกำลังขยาย 32X ขึ้นไป ผู้ใช้จะสามารถดูพื้นที่ขนาดเล็กมาก และส่วนใหญ่จะทำให้เราหาตำแหน่งโฟกัสของไม้สตาฟ์ หรือโฟกัสที่บริเวณนั้นได้ยากขึ้น โดยปกติ ระดับแสงที่มีกำลังขยายอยู่ที่ระหว่าง 24X ถึง 28X เป็นค่าที่พอดี วิธีที่ตรวจสอบก็คือการเปรียบเทียบตัวเองโดยการมองผ่านระดับการมองเห็นด้วยกำลังขยายที่แตกต่างกันนั้นเอง
ระดับ IP ของ กล้องวัดระดับ
เช่นเดียวกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ ที่จะต้องมีระบบการป้องกันมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ที่เรียกว่าพิกัด IP เพราะ ฝุ่นและน้ำเป็นองค์ประกอบหลักที่เมื่อใช้ในสถานที่ก่อสร้าง เราต้องพิจารณาการให้คะแนนนี้หากคุณมีแนวโน้มที่จะใช้เครื่องมือนี้ในสถานที่ก่อสร้างที่มีอัตราการสัมผัสสูงกว่า และกล้องวัดระดับบางรุ่นนั้นถูกสร้างขึ้นให้สามารถใช้งานในน้ำได้ ให้เราเข้าใจเสมอว่ายิ่งมีระดับ IP มากเท่าใด เครื่องมือก็จะยิ่งทนทานต่อน้ำและฝุ่นมากขึ้นเท่านั้น
ฐานตั้ง กล้องวัดระดับ
ควรพิจารณาคุณภาพของขาตั้งและวัสดุที่ทำ เพราะเราจะต้องติดตั้งเครื่องมือบนขาตั้ง โดยปกติฐานของระดับการมองเห็นส่วนใหญ่ทำจากพลาสติกแข็ง หรือโลหะ โดยข้อดีของการใช้วัสดุแต่ละอย่างนั้นก็จะมีความต่างกันออกไป ถ้าเป็นพลาสติกนั้นดีเพราะเกี่ยวข้องกับการบังของสีต่างจากระดับแสงที่มีฐานโลหะ แต่ฐานที่ทำจากพลาสติกนั้นไม่แข็งแรงมากเมื่อเทียบกับตัวโลหะ แผ่นฐานโลหะแข็งแรงกว่ามากและมีโอกาสน้อยที่จะร้อยเกลียวบนขาตั้งกล้อง
ช่วงระดับแสงของ กล้องวัดระดับ
โดยปกติแล้วนั้นประสิทธิภาพในการมองเห็นของกล้องจะสามารถมองได้เท่าที่ตามุนษย์เห็นเท่านั้น และระยะที่เหมาะสมและดูน่าเชื่อถือ จะอยู่แค่ระหว่า 40-50 เมตร ช่วงที่มีประสิทธิภาพคือช่วงการมองเห็นหรือพื้นที่ ที่สามารถครอบคลุมได้อย่างมีประสิทธิภาพจากจุดคงที่เพื่อดำเนินการปรับระดับ นี่เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับไซต์ก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อปรับระดับ ระดับการมองเห็นที่มีช่วงที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าจะสามารถครอบคลุมได้จนถึงระยะทางที่จำกัดเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น หากช่วงที่มีประสิทธิภาพของระดับการมองเห็นคือ 30 เมตร จะสามารถครอบคลุมพื้นที่ได้จนถึง 30 เมตรหรือน้อยกว่านั้น ด้วยระยะที่กว้างกว่า พื้นที่จะครอบคลุมมากขึ้นนั่นเอง ดังนั้นคุณควรเลือกระดับแสงที่มีช่วงประสิทธิผลเฉพาะตามพื้นที่ของสถานที่ทำงาน และงานที่จะต้องทำให้เสร็จ
งานการก่อสร้างของ กล้องวัดระดับ
ต้องไม่ลืมโครงสร้างภายนอกขณะเลือก กล้องวัดระดับ เครื่องมือนี้ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้สำหรับงานกลางแจ้ง แน่นอนว่าเครื่องต้องสัมผัสกับพื่นผิวที่ขรุขระและ สภาพแวดล้อมเรื่องฝุ่น และละอองน้ำ อากาศต่างๆ เราเลยต้องเลือกเครื่องมือที่แข็งแรง สามารถทนต่อสถานการณ์ต่างๆได้ หากจำเป็นต้องใช้เครื่องมือในไซต์งานที่มีการสั่นสะเทือนมาก อาจจะมีการพิจารณาเลือกชุดป้องกันการสั่นสะเทือนจากแรงกระแทกเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นกล้องวัดระดับที่เป็โลหะนั้นจึงเหมาะสมที่สุดสำหรับไซต์ก่อสร้างที่ใช้งานหนัก
เมื่อเทียบกับการทำงานในอดีตนั้น เครื่องมือชนิดนี้เป็นเครื่องมือที่มีราคาค่อนข้างสูง ทำให้การเลือกซื้อนั้นต้องผ่านกระบวนการพิจารณาถึงความคุ้มค่า วัตถุประสงค์ในการใช้งาน ความทนทาน ในบทความนี้เราเลยจะพามาทำความรู้จักกับกล้องวัดระดับของ BOSCH กัน
2 กล้องวัดระดับ ของ BOSCH
กล้องวัดระดับ BOSCH รุ่น GOL 26 D
ทำขึ้นจากวัสดุอย่างดีแข็งแรงเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับการใช้งานกานแจ้งเป็นกล้องสำรวจ รุ่นประหยัด ใช้ในงานสำรวจ กำลังขยายถึง 26 เท่า ถ้าเป็นงานเกี่ยวกับการทำถนน สามารถใช้คำนวณ ระยะทางได้ หาระดับงานถนน งานก่อสร้างอาคารตั้งดิ่งแบบหล่อเสาและคาน งานถ่ายระดับวงรอบ (traverse leveling) ปรับระดับเทพื้น ปูพื้น งานดินขุดถม (cut and fill process) มีระบบป้องกันละอองน้ำและฝุ่น ค่า IP อยู่ที่ 54 มีค่าความเที่ยงตรงสูง 1.6 มม./30 ม. แม้ในการวัดระยะไกล เลนส์ในการมองภาพคมชัด
กล้องวัดระดับ BOSCH รุ่น GOL 32 D
รุ่นนี้เป็นกล้องวัดระดับสำหรับงานภายนอก หาระดับงานถนน งานก่อสร้างอาคารตั้งดิ่งแบบหล่อเสาและคาน ให้ภาพการมองเห็นในทิศทางเดียวกับกับวัตถุ เลนส์รวมแสงไปยังเป้าหมายสำหรับการเล็งคร่าวๆ และมีรูรับแสงที่ทำให้การมองเห็นชัดเจนและปรับดฟกัสแบบรวดเร็ว กระเป๋าใส่พร้อมล็อคเสริม เพื่อการเคลื่อนย้ายอย่างปลอดภัย พร้อมเลนส์รวมแสงและหลอดวัดระดับในตัว ปรับมุมได้ไม่จำกัด ด้วยปุ่มปรับที่ทั้งสองด้านพร้อมระบบหยุดการหมุนด้วยแรงเสียดทาน