มาดูประเภท เครื่องปั่นไฟ เชียงใหม่ กัน!ว่ามีประเภทอะไรบ้าง?

0

หากคุณกำลังหา เครื่องปั่นไฟ เชียงใหม่ อยู่ ต้องอ่านบทความนี้เลย เพราะผมจะมาแนะนำร้านที่จัดจำหน่าย เครื่องปั่นไฟ รวมไปถึงแนะนำประเภทต่างๆของ เครื่องปั่นไฟ ด้วยว่าแบบไหนที่จะเหมาะกับการใช้งานของคุณ ก่อนอื่นผมจะพาคุณไปรู้จักกับเจ้าตัว เครื่องปั่นไฟ กันก่อนนะครับว่าเป็นยังไง

ความสำคัญของ เครื่องปั่นไฟ 

เครื่องปั่นไฟ ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญเลยก็ว่าได้ครับ เป็นเครื่องมือที่สามารถเปลี่ยนพลังงานกลให้กลายมาเป็นพลังงานไฟฟ้า พูดง่ายๆก็คือ การเหนี่ยวนำแม่เหล็กนั่นเอง เมื่อมีการเคลื่อนที่ของขดลวดตัวนำผ่านสนามแม่เหล็ก หรือมีการเคลื่อนที่ของแม่เหล็กผ่านขดลวดตัวนำ จะทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำขึ้นนั่นเองครับ

เครื่องปั่นไฟ เชียงใหม่

จุดประสงค์หลักๆของ เครื่องปั่นไฟ ก็เพื่อผลิตไฟฟ้า เหมาะมากในการนำไปใช้กับพื้นที่ต่างจังหวัดพื้นที่ห่างไกล และมีปัญหาเรื่องของไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง หรือแม้กระทั่งเหตุฉุกเฉินเวลาไฟดับ โดยเครื่องปั่นไฟ แบ่งเป็น 2 ชนิด กระแสตรงและกระแสสลับนั่นเอง ทุกวันนี้การติดตั้ง เครื่องปั่นไฟ ตามที่ต่าง ๆ ก็เพื่อไว้ใช้เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าสำรอง ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น เช่น ไฟดับ ฝนตกหนักพายุเข้า จนเป็นเหตุให้ไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ การมี เครื่องปั่นไฟ ไว้ก็เพื่อที่ให้มีพลังงานสำรอง เพื่อยืดเวลาในการทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด

การเลือก เครื่องปั่นไฟ ที่เหมาะสม

มาต่อกันครับ ที่ผมเกริ่นไปข้างต้นก่อนหน้านี้ หากคุณกำลังหา เครื่องปั่นไฟ เชียงใหม่ ผมจะแนะนำร้านเครื่องมือช่างร้านนึง หาคุณเคยผ่านเส้นทาง เชียงใหม่-ฮอด มาจนตรงถึงหางดง ก่อนถึงแยกบิ๊กซีแม่เหียะ มันจะมีร้านเครื่องมือช่าง ที่โดดเด่นอยู่ร้านนึงก็คือ Itoolmart นั่นเองครับ ทีมีเครื่องปั่นไฟ ให้เลือกมากมายขนาดเล็ก กลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่  แล้วแบบไหนล่ะ? ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ? เครื่องปั่นไฟขนาดเล็กกับกลาง เป็นขนาดที่เหมาะกับการใช้งานในครัวเรือน ตามไซต์งานก่อสร้าง นำไปใช้ในการเชื่อมโลหะ แคมปิ้ง หรืออุตสาหกรรมต่างๆ เครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าเริ่มตั้งแต่ 1-20 กิโลโวลต์แอมป์ (kVA) สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก พกไปใช้นอกบ้านได้ และในส่วน เครื่องปั่นไฟขนาดกลาง มีกำลังผลิตไฟฟ้าตั้งแต่ 20-2,500 กิโลโวลต์แอมป์ (kVA) ที่เหมาะกับการใช้ในงานพวกอุตสาหกรรมขนาดกลาง เช่น พวกโรงงานต่างๆ เครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่  ใช้พลังงานไฟฟ้าสำรองได้ยาวนานหลายวัน มีกำลังผลิตไฟฟ้าตั้งแต่ 4,000 กิโลโวลต์แอมป์ (kVA) ขึ้นไป ด้วยความที่ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่จึงมักใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม ธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นต้น

ประเภทของ เครื่องปั่นไฟ

เครื่องปั่นไฟ เชียงใหม่ สามารถแยกได้เป็นหลายรูปแบบ แต่ละประเทศก็นิยมใช้งานที่แตกต่างกันไป

เครื่องปั่นไฟเบนซิน

เป็นเครื่องที่ใช้น้ำมันเบนซินเป็นตัวขับเคลื่อน ถึงแม้เรียกว่า เครื่องปั่นไฟเบนซิน แต่ก็สามารถใช้เชื้อเพลิงอย่าง เอทานอล หรือแก๊สโซฮอล์ 91-95 ได้เหมือนกัน เหมาะกับการใช้งานที่ไม่บ่อยนัก อาจใช้เดือนละไม่เกิน 3 ครั้ง ครั้งละ 3-4 ชั่วโมง ดูแลรักษาง่าย เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน งานขนาดเล็ก และสามารถเคลื่อนย้ายเพราะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่น้ำมันเบนซินก็เป็นสารไวไฟที่มีอายุการเก็บรักษาสั้นกว่าเชื้อเพลิงประเภทอื่น ไม่เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานนั่นเอง

เครื่องปั่นไฟ เชียงใหม่

เครื่องปั่นไฟดีเซล 

ใช้ดีเซลเป็นตัวขับเคลื่อน เป็นตัวเลือกเชื้อเพลิงที่ติดไฟได้น้อยที่สุด แถมยังมีความปลอดภัยกว่าน้ำมันเบนซิน แต่ตัวนี้จะเหมาะกับการใช้งานที่หนัก และใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ออกแบบมาให้มีการเผาไหม้ที่ดี ใช้งานได้ยาวนาน และคงทน ข้อเสียของตัวนี้อาจจะทำให้เคลื่อนย้ายค่อนข้างลำบากพอสมควร ตัวเครื่องส่งเสียงดัง แถมยังสร้างพวกมลพิษมากกว่า แต่เนื่องจากค่อนข้างเคลื่อนย้ายลำบาก จึงเหมาะกับการใช้งานอยู่กับที่

เครื่องปั่นไฟ เชียงใหม่

เครื่องปั่นไฟอินเวอร์เตอร์ 

มีน้ำหนักเบา พกพาได้ง่าย มีหลากหลายขนาด และยังเป็นเครื่องปั่นไฟที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างสม่ำเสมอ เครื่องปั่นไฟอินเวอร์เตอร์ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ขนาด คือ

  • ขนาดพกพา (ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 2,000 วัตต์)
  • ขนาดกลาง (ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 2,500-4,500 วัตต์ )
  • ขนาดใหญ่ (ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 5,000 วัตต์ขึ้นไป)

เครื่องปั่นไฟ เชียงใหม่

เครื่องปั่นไฟพลังงานแสงอาทิตย์

เครื่องปั่นไฟพลังงานแสงอาทิตย์ คือ เครื่องปั่นไฟที่นำเอาพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้ มีการใช้แผงโซลาร์เซลล์มาใช้ เพื่อเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นกระแสไฟตรงนั่นเอง โดยตัวของแบตเตอรี่จะทำการเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ สำหรับการใช้งานนั้น เหมาะกับการนำไปแคมปิ้ง หรือเป็นแหล่งพลังงานสำรองในพื้นที่ห่างไกลจากไฟฟ้า

เครื่องปั่นไฟ เชียงใหม่

ประโยชน์ของ เครื่องปั่นไฟ

  • เป็นตัวช่วยผลิตกระแสไฟฟ้าสำรอง และแน่นอนว่าในปัจจุบัน ไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน ตั้งแต่การใช้งานในครัวเรือน ไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือไฟดับก็จะมีไฟฟ้าสำรองไว้ใช้ ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงพยาบาล และสถาณที่ต้องใช้ไฟฟ้าตลอดนั่นเอง
  • ให้พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ห่างไกล บางพื้นที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง เช่น พวกบนเขา บนดอย ก็สามารถใช้เครื่องปั่นไฟ ที่เป็นพลังานแสงอาทิตย์ เพื่อเข้าไปอำนวยความสะดวกได้อีกด้วย
  • ป้องกันความเสียหายต่ออุตสาหกรรม รวมไปถึงธุรกิจต่างๆ มักมีข้อมูลสำคัญที่ถูกเก็บไว้ หากเกิดไฟฟ้าดับขึ้นมา และไม่มีไฟสำรอง อาจทำให้ข้อมูลเหล่านี้สูญหาย ซึ่งสร้างความเสียหายต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก
About author

Your email address will not be published. Required fields are marked *