พัดลมดูดอากาศ มีหลากหลายแบบ มีทั้งที่ใช้ในครัว ในห้องน้ำ และในโรงงานหรืออุตสาหกรรม วันนี้จะมาแนะนำวิธีการเลือก พัดลมดูดอากาศ ที่ใช้ในโรงงานโดยเฉพาะ ซึ่งใช้งานได้ทั้งดูดและเป่า
พัดลมดูดอากาศ ภาษาอังกฤษ จะเรียกว่า portable ventilation fan หรือ portable explosion proof fan ซึ่งหมายถึง พัดลมดูดอากาศ โรงงานหรือ พัดลมท่อ หรือพัดลมถังกลมโดยเฉพาะ ที่เรียกว่า พัดลมท่อ ก็เพราะต้องต่อกับท่อเวลาใช้งาน เพื่อระบายความร้อนหรืออากาศในโรงงานหรือไซต์งานที่มีกลิ่นสารเคมีหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์รุนแรง หรือกระทั่งในห้องแคบๆ ที่มีกลิ่นอับ หากกลับด้านพัดลมก็จะสามารถใช้เป่าลมได้ด้วย
ลักษณะของ พัดลมดูดอากาศ
ด้านหน้าและด้านหลังจะเป็นวงกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดต่างๆ ปัจจุบัน พัดลมดูดอากาศ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ หลายยี่ห้อ ทั้งสี วัสดุ ดีไซน์ ก็จะต่างกันไป แต่ไม่มากนัก ขนาดยังคงเป็นมาตรฐานเดียวกัน
ขนาดของ พัดลมดูดอากาศ
พัดลมดูดอากาศ มีหลากหลายขนาด ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่เหมาะกับพื้นที่แตกต่างกัน ซึ่งจะวัดจากเส้นผ่านศูนย์กลางด้านหน้าเป็นหลัก ยิ่งมีหน้ากว้างก็จะยิ่งเหมาะกับพื้นที่กว้างๆ ดูดอากาศได้วงกว้างและครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งมีให้เลือกกว่า 8 ขนาด ดังนี้
- พัดลมดูดอากาศ 8 นิ้ว กำลังไฟ 150 วัตต์ ความแรงลมประมาณ 880 CFM เหมาะสำหรับใช้ในอาคาร ห้องแคบๆ น้ำหนักเบา เครื่องเล็ก ขนย้ายสะดวก
- พัดลมดูดอากาศ 10 นิ้ว กำลังไฟ 350 วัตต์ ความแรงลมประมาณ 1,510 CFM เหมาะสำหรับห้องที่กว้างขวางขึ้น เช่น ห้องประชุม
- พัดลมดูดอากาศ 12 นิ้ว กำลังไฟ 550 วัตต์ ความแรงลมประมาณ 2,295 CFM เหมาะสำหรับโรงงานเล็กๆ
- พัดลมดูดอากาศ 16 นิ้ว กำลังไฟ 750 วัตต์ ความแรงลมประมาณ 3,530 CFM เหมาะสำหรับห้องโถงขนาดใหญ่หรือใช้ภายนอกอาคาร (ไม่ใช่กลางแจ้ง)
- พัดลมดูดอากาศ 20 นิ้วกำลังไฟ 1,500 วัตต์ ความแรงลมประมาณ 5,120 CFM เหมาะสำหรับโรงงานขนาดกลาง
- พัดลมดูดอากาศ 24 นิ้ว กำลังไฟ 2,200 วัตต์ ความแรงลมประมาณ 10,240 CFM เหมาะสำหรับโรงงานขนาดกลางค่อนข้างใหญ่
- พัดลมดูดอากาศ 28 นิ้ว กำลังไฟ 3,000 วัตต์ ความแรงลมประมาณ 14,410 CFM ใช้กำลังไฟสูง เหมาะกับโรงงานขนาดใหญ่
- พัดลมดูดอากาศ 32 นิ้ว กำลังไฟ 4,000 วัตต์ ความแรงลมประมาณ 21,180 CFM ใช้กำลังไฟสูง เหมาะกับโรงงานขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม คำแนะนำด้านบนเป็นเพียงความเหมาะสมที่ควรใช้งาน พัดลมดูดอากาศ เบื้องต้นคร่าวๆ เท่านั้น หากจะใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดควรคำนึงจากค่า CFM ซึ่งค่าที่เหมาะสมควรอยู่ที่อย่างน้อย 1 CFM ต่อตารางฟุตของพื้นที่ และควรเลือกขนาดที่ใช้กำลังไฟและแรงดันไฟที่เหมาะกับสถานที่ที่จะใช้งานด้วย ซึ่ง พัดลมดูดอากาศ ขนาด 8 นิ้ว – 24 นิ้ว จะใช้แรงดันไฟที่ 220 โวลต์ ขนาด 28 นิ้วขึ้นไปจะใช้แรงดันไฟ 380 โวลต์
ท่อของ พัดลมดูดอากาศ
หากมีแต่พัดลมก็จะใช้เป่าลมได้อย่างเดียว ดังนั้นจึงต้องมีท่อที่ใช้งานคู่กันด้วย พัดลมจึงจะสามารถดูดอากาศได้ หลักการทำงานนี้คล้ายกับเครื่องดูดฝุ่น นอกจากขนาดของปากท่อแล้ว ความยาวของท่อก็มีให้เลือกเยอะเช่นกัน ดังนี้
- ท่อ พัดลมดูดอากาศ 5 เมตร
- ท่อ พัดลมดูดอากาศ 10 เมตร
- ท่อ พัดลมดูดอากาศ 20 เมตร
ราคา พัดลมดูดอากาศ
แต่ละยี่ห้อราคาก็จะแตกต่างกัน ตามวัสดุและปัจจัยอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้ห่างกันมากนัก โดยราคาสำหรับรุ่นที่เล็กที่สุด (8 นิ้ว) อยู่ที่ประมาณ 2,500 บาท (ไม่รวมท่อ)
วิธีการดูแล พัดลมดูดอากาศ
พัดลมดูดอากาศใช้มอเตอร์ทำงาน ดังนั้น จึงควรหมั่นทำความสะอาดใบพัด ไม่ให้มีคราบหรือฝุ่นละอองเกาะ เพราะจะลดประสิทธิภาพการทำงานของมอเตอร์ลง ทำให้อายุการใช้งานลดลง ประสิทธิภาพการดูดอากาศลดลง